หวยไทย คนไทยซื้อกันเพียบ แต่คนไทยอย่างเราก็มักจะสรรหาหวยประเทศอื่นๆที่มีโอกาสชนะมากขึ้น รวมถึงมีเงินรางวัลที่มากกว่าหวยไทยอยู่ตลอดๆ จากข้อมูลที่ได้รวบรวมมา มีหวยอยู่ 5 ประเทศที่ควรซื้อนอกเหนือจากหวยไทยครับ
จะมีหวยอะไรบ้างตามไปดูได้ที่ด้านล่าง แต่ก่อนจะเริ่ม ต้องบอกงี้ครับ หวยทุกอย่างหาซื้อได้ยากกว่าหวยไทยครับ เพราะไม่ใช่ประเทศของเรา และหากเราซื้อกับเว็บหวยออนไลน์ เขาต้องเก็บค่าธรรมเนียมเราแน่นอนครับ ทำให้ได้อัตราจ่ายน้อยกว่าหวยไทย
เช่น
หวยออนไลน์ หวยไทย ให้อัตราจ่ายบาทละ 80 บาท
หวยสิงคโปร์อาจจะให้อัตราจ่ายบาทละ 75 บาท เป็นต้นครับ
แต่!!!
ที่ Global Lotto ให้อัตราจ่ายบาทละ 98 บาท ตั้งแต่หวยไทย ยันไปถึงหวยสิงคโปร์ – อเมริกาเลยครับ แถมไม่มีเลขอั้น และขายหวยคืนได้ไม่มีค่าธรรมเนียมครับ
มีหวยประเทศอะไรบ้างที่น่าซื้อเหมือนหวยไทย
- หวยลาว (สปป.ลาว)
- ออกผลบ่อย : อาทิตย์ละ 3-4 ครั้ง (ปกติวันจันทร์ พุธ ศุกร์ บางที่มีพิเศษวันอาทิตย์ด้วย)
- รูปแบบ : ออกรางวัลแบบ 4 หลัก (บางเจ้าในไทยแปลงเป็น 2 ตัว 3 ตัวให้เล่นเหมือนหวยไทย)
- โอกาสถูกรางวัล : สูงกว่าหวยไทย เพราะเลขออกแค่ 4 หลัก
- ราคาซื้อ : ถูกกว่าหวยไทยเยอะ (หลักสิบบาทก็เล่นได้)
- ข้อดี : มีหลายรอบในสัปดาห์ แก้เบื่อหวยเดือนละ 2 ครั้งแบบไทยได้
- ข้อเสีย : ถ้าเล่นแบบ 4 หลักตรง ๆ จะต้องทำความเข้าใจระบบรางวัลนิดหนึ่ง
เปรียบเทียบกับหวยไทย
- หวยลาวออกบ่อยกว่า เล่นได้เรื่อย ๆ ไม่ต้องรอครึ่งเดือน
- ถูกง่ายกว่าเพราะเลขน้อยกว่า
- แต่เงินรางวัลน้อยกว่าหวยไทย (เพราะทุนต่ำ)
- หวยฮานอย (เวียดนาม)
- ออกผลทุกวัน : ออกวันละหลายรอบ (ฮานอยพิเศษ, ฮานอยปกติ, ฮานอย VIP)
- รูปแบบ : เล่น 2 ตัว 3 ตัวเหมือนหวยไทย
- โอกาสถูกรางวัล : คล้ายหวยใต้ดินไทย แต่เล่นได้ทุกวัน
- ราคาซื้อ : ถูกมาก (ซื้อขั้นต่ำ 1-10 บาทได้)
- ข้อดี : วันไหนดวงมา ก็ยิงรัว ๆ ได้ ไม่ต้องรอ
- ข้อเสีย : ถ้าไม่ควบคุมตัวเอง จะเล่นเพลินจนขาดทุนโดยไม่รู้ตัว
เปรียบเทียบกับหวยไทย
- ฮานอยได้เปรียบเรื่อง “ออกทุกวัน” — โอกาสแก้มือทัน
- การเล่นเหมือนหวยใต้ดินไทยมาก ง่าย ไม่ต้องเรียนรู้ใหม่
- แต่ถ้าไม่มีวินัย อาจหมดตัวง่ายกว่า เพราะรอบถี่เกิน
- หวยมาเลย์ (มาเลเซีย)
- ออกผลสัปดาห์ละ 3 วัน : ปกติคือ วันพุธ เสาร์ อาทิตย์ (บางรอบมีพิเศษ วันอังคาร)
- รูปแบบ : เล่นเลข 4 หลัก (ไม่ใช่ 6 หลักแบบไทย)
- โอกาสถูกรางวัล : ถ้าซื้อเลข 4 หลักตรง ๆ โอกาสดีกว่าหวยไทยเยอะ
- ราคาซื้อ : ซื้อแบบหลายวิธีได้ เช่น ซื้อโต๊ด, ซื้อตรง, ซื้อเล็กใหญ่
- ข้อดี : รูปแบบมีความยืดหยุ่น เลือกได้ว่าจะเสี่ยงมากหรือเสี่ยงน้อย
- ข้อเสีย : ต้องศึกษาวิธีแทงแบบ “4D” นิดหน่อย ไม่เหมือนใต้ดินไทย 100%
เปรียบเทียบกับหวยไทย
- มาเลย์มีโอกาสถูกรางวัลเยอะกว่า (เพราะแค่ 4 หลัก)
- มีหลายวิธีแทง ยืดหยุ่นกว่าไทย
- แต่รูปแบบอาจงงในตอนเริ่มต้น ต้องศึกษาเพิ่มนิดหน่อย
- หวยสิงคโปร์ (Singapore Pools – 4D)
- ออกผลสัปดาห์ละ 2 ครั้ง : วันพุธ และ วันเสาร์
- รูปแบบ : เหมือนหวยมาเลย์ 4D (เลข 4 หลัก)
- โอกาสถูกรางวัล : สูงกว่าหวยไทย เพราะเลขน้อยกว่า และมีรางวัลหลายอันดับ (1st, 2nd, 3rd, Special Prize)
- ราคาซื้อ : ขึ้นอยู่กับเจ้าที่ขาย (ออนไลน์ก็มีราคาเบา ๆ)
- ข้อดี : ระบบโปร่งใสมาก เพราะรัฐเป็นคนดำเนินการเอง (ถูกกฎหมายเต็มรูปแบบ)
- ข้อเสีย : มีแค่ 2 วันต่อสัปดาห์ รอนานกว่าหวยฮานอยหรือลาว
เปรียบเทียบกับหวยไทย
- หวยสิงคโปร์มีความน่าเชื่อถือสูงมากกว่าหวยไทย
- โอกาสถูกดีกว่าหวยไทย เพราะระบบแจกหลายรางวัล
- แต่รอบออกน้อยกว่าฮานอย หรือหวยลาว
- หวยหุ้นต่างประเทศ (เช่น นิเคอิ ดาวโจนส์ จีน ฮั่งเส็ง)
- ออกผลตามเวลาตลาดหุ้นจริง : บางตลาดวันละ 2 รอบ (เช้า–บ่าย)
- รูปแบบ : เอาตัวเลขจากตลาดหุ้น (ค่าดัชนี) มาออกรางวัล เลข 2 ตัว 3 ตัว
- โอกาสถูกรางวัล : พอกับหวยใต้ดินไทย แต่ได้เล่นทุกวันจันทร์–ศุกร์
- ราคาซื้อ : ต่ำมาก ซื้อตามเจ้ามือออนไลน์
- ข้อดี : คาดเดาแนวโน้มได้บ้าง (เช่น ดูเทรนด์ตลาดหุ้น)
- ข้อเสีย : มีความซับซ้อนในเรื่องเวลาและตลาด (ต้องรู้ว่าตลาดไหนออกกี่โมง)
เปรียบเทียบกับหวยไทย
- หวยหุ้นออกผลบ่อยกว่าไทยหลายเท่า
- มีโอกาสเก็งทิศทางได้ ไม่ใช่พึ่งแต่ดวง
- แต่ต้องตั้งนาฬิกาตามตลาดต่างประเทศ และต้องรู้จักดูเลขปิดตลาดหุ้น
หวยไหนเหมาะกับใคร
- ถ้า ชอบแทงบ่อย ๆ ทุกวัน → หวยฮานอย, หวยหุ้น
- ถ้า ชอบมีเวลาเตรียมตัว เล่นช้า ๆ → หวยลาว, หวยสิงคโปร์
- ถ้า อยากได้โอกาสถูกสูงกว่าไทย → หวยมาเลย์, หวยสิงคโปร์
- ถ้า ไม่อยากศึกษาอะไรมาก เล่นเหมือนหวยไทยเลย → หวยฮานอย
- ถ้า อยากตามเทคนิค ดูเทรนด์การเคลื่อนไหวตลาด → หวยหุ้นต่างประเทศ
สรุป
- หวยไทย : รางวัลเยอะ แต่โอกาสถูกรางวัลน้อย (เพราะ 6 ตัว) ออกเดือนละ 2 ครั้ง
- หวยต่างประเทศ ที่แนะนำมา : ส่วนใหญ่ ออกบ่อยกว่า ถูกง่ายกว่า แต่ เงินรางวัลน้อยกว่า เพราะระบบเล่นเร็ว หมุนรอบไว