ไขมัน ที่ลดยากที่สุดมักจะเป็นไขมันบริเวณท้องส่วนล่าง ต้นขาด้านใน และหน้าท้อง หรือพุงที่เราคุ้นเคยกันนั่นเองครับ ใครที่ออกกำลังกายมาสักพักแล้ว 1-2 เดือน แล้วรู้สึกว่าไขมันตรงหน้าท้องมันน้อยลงแต่มันไม่กระชับเหมือนกับนักกล้ามหุ่นดีๆ ไขมันในร่างกาย 10% หรือน้อยกว่านั้น ไม่ต้องกังวลไปครับ
เนื่องจากไขมันพวกนี้ลดยากอยู่แล้วต้องใช้เวลาสักพักอย่างน้อย 4 เดือนขึ้นไปกับการลดไขมันพวกนี้ครับ ทำต่อเนื่องไปเรื่อยๆแล้วเราจะไปถึงจุดที่มองมันทุกวันไม่ลดสักที แต่พอรู้ตัวก็มี Six pack แล้วครับ
สาเหตุที่ทำให้ไขมันที่ว่ามาลดยาก
เป็นจุดสะสมไขมันตามธรรมชาติของร่างกาย
- ร่างกายแต่ละเพศมี “จุดเก็บพลังงานสำรอง” ตามฮอร์โมน
- ผู้หญิง: ต้นขา, สะโพก, ก้น
- ผู้ชาย: หน้าท้อง, เอว
- ร่างกายจะพยายาม รักษาไขมันในจุดนั้นไว้ใช้นานที่สุด
ไขมันบริเวณนั้นคือ “ไขมันใต้ผิวหนัง” (Subcutaneous fat)
- ไขมันใต้ผิวหนังบางจุดไหลเวียนเลือดยาก ทำให้ดึงพลังงานออกมาใช้ยากกว่าไขมันประเภทอื่น
- เช่น หน้าท้องล่าง ไขมันมักจะ “เหนียวแน่น” และดื้อการเผาผลาญ
ฮอร์โมนมีผล
- ฮอร์โมนเอสโตรเจน (ในผู้หญิง) ส่งผลให้ร่างกายเก็บไขมันไว้บริเวณสะโพกและต้นขา
- ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (ในผู้ชาย) ทำให้ไขมันกระจุกที่พุง
- เมื่ออายุเพิ่มขึ้น สมดุลฮอร์โมนเปลี่ยน → การเผาผลาญก็แย่ลงด้วย
ปัจจัยด้านพันธุกรรม
- รูปร่างแต่ละคนมีโครงสร้างต่างกัน บางคนลดน้ำหนักรวมได้ แต่จุดดื้อไขมันจะยังอยู่
- เช่น บางคนผอมแต่พุงไม่ลด, ขาเล็กแต่ก้นใหญ่ ฯลฯ
การนั่งนานหรือไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว
- เช่น คนทำงานนั่งโต๊ะ ไขมันจะสะสมบริเวณพุงและต้นขา เพราะกล้ามเนื้อไม่ถูกใช้งาน
- ระบบไหลเวียนเลือดช้าลง = เผาผลาญไขมันบริเวณนั้นได้ยาก
ทำไมไขมันหน้าท้อง หรือพุงของเรามันเห็น Six pack ยากกว่ากล้ามส่วนอื่น
เหตุผลที่ไขมันบางส่วนของร่างกาย เช่น หน้าท้อง หรือต้นขาเองก็ตาม ลดยากกว่าที่อื่น เป็นเพราะร่างกายออกแบบมาให้บริเวณนั้นเป็นจุดเก็บพลังงานสำรองโดยเฉพาะ และยังมีปัจจัยลึกในระดับชีววิทยาและฮอร์โมนที่ส่งผลต่อการสะสมและการเผาผลาญไขมันของจุดเหล่านี้โดยตรง
ไขมันในจุดเหล่านี้คือ “ไขมันดื้อ” (Stubborn Fat)
ไขมันดื้อมีลักษณะ:
- อยู่ลึกใต้ผิวหนัง (subcutaneous fat)
- ไหลเวียนเลือดไปถึงยาก → ส่งผลให้ “ดึงไขมันออกมาเผาผลาญ” ยากตามไปด้วย
- มีตัวรับสัญญาณไขมันชนิดที่ทำให้ดึงไขมันออกได้ยาก (รายละเอียดดูข้อ 3)
เป็นจุดที่ร่างกายใช้ “เก็บพลังงานสำรอง” ตามกลไกเอาตัวรอด
- ร่างกายมนุษย์วิวัฒนาการมาเพื่อ เก็บพลังงานไว้ในยามขาดแคลน
- บริเวณอย่างหน้าท้องล่าง, สะโพก, ต้นขา มักถูกใช้เป็น “คลังพลังงานสำรอง” โดยเฉพาะในผู้หญิง (ใช้สำหรับการตั้งครรภ์และให้นมบุตร)
- ร่างกายจึง “พยายามรักษาไขมันบริเวณนี้ไว้ให้นานที่สุด”
อิทธิพลของฮอร์โมนและตัวรับไขมัน (Fat Receptors)
ไขมันในร่างกายมีตัวรับ 2 ชนิดหลัก:
ชนิดของตัวรับ | หน้าที่ |
Beta receptors | ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมัน |
Alpha receptors | ยับยั้งการเผาผลาญไขมัน |
- ไขมันดื้อมี ตัวรับ alpha มากกว่า beta
- ทำให้แม้ร่างกายใช้พลังงานหรือออกกำลังกาย ไขมันบริเวณนี้ก็ยัง ดึงออกมาใช้ช้ากว่าส่วนอื่น
ระบบไหลเวียนเลือดในจุดเหล่านั้นต่ำ
- เช่น หน้าท้องล่าง หรือขาด้านใน เป็นจุดที่เลือดไปเลี้ยงน้อยกว่าส่วนอื่น
- เมื่อต้องดึงพลังงานมาใช้ → ระบบเผาผลาญ “เข้าถึงไขมันยาก”
- คล้ายกับ “น้ำอยู่ในถังลึก ต้องใช้เวลานานกว่าจะตักขึ้นมาได้”
ระดับอินซูลินและการสะสมไขมัน
- การทานอาหารที่มีน้ำตาลหรือคาร์โบไฮเดรตสูงบ่อย ทำให้อินซูลินสูง
- อินซูลินจะ เร่งเก็บไขมันบริเวณพุงเป็นหลัก
- โดยเฉพาะในผู้ชาย → พุงจะใหญ่และลดยาก เพราะเป็นผลโดยตรงจากอินซูลินและฮอร์โมนเพศชาย
อิทธิพลจากพันธุกรรมและเพศ
- พันธุกรรมกำหนดว่าร่างกายคุณจะเก็บไขมันส่วนไหนมากกว่าปกติ
- ผู้หญิงจะมีแนวโน้มเก็บไขมันที่สะโพก–ต้นขามากกว่า
- ผู้ชายจะสะสมที่หน้าท้องมากกว่า
- จุดที่ร่างกายเก็บง่าย = มักจะลดยาก
แนวทางช่วยลดไขมันดื้อ
- เน้นคุมอาหารเป็นหลัก (แคลอรีน้อยกว่าที่ใช้)
- เพิ่มคาร์ดิโอ + เวทเทรนนิ่งร่วมกัน
- พักผ่อนเพียงพอ เพราะนอนไม่พอทำให้ฮอร์โมนไขมันเสียสมดุล
- ฝึกกล้ามเนื้อเฉพาะจุด เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนบริเวณนั้น
- ต้องใช้ “เวลาและวินัย” เพราะจุดเหล่านี้ไม่ลดไวเหมือนหน้าหรือแขน
หรือจะง่ายๆ 2 คำ คือ ออกกำลังกาย + คุมอาหาร ทำไปเรื่อยๆครับการันตีถ้าทำได้ต่อเนื่องยังไงก็ลดได้แน่นอนไม่ช้าก็เร็วขึ้นอยู่กับความเยอะของไขมันและสัดส่วนของแต่ละคนครับ ถ้านั่งดูทีวีทุกวัน นั่งเล่นหวยไวอยู่ที่โซฟาทั้งวัน หรือจะเล่นเกมทั้งวันไม่ออกกำลังกาย ยังไงก็ไม่มีทางลดไขมันเหล่านี้ได้แน่นอนครับ เริ่มจากลงมือออกกำลังกายวันละนิดวันละหน่อย เชื่อว่าสุดท้ายได้หุ่นที่ต้องการ และลดไขมันได้ตามที่ใจหวังแน่นอนครับ
สรุป
ไขมันที่ลดยากที่สุดในร่างกาย คือ หน้าท้อง และต้นขาด้านในครับ เนื่องจากบริเวณนี้เป็นบริเวณที่ใช้เป็นแหล่งสะสมพลังงานสำรองของร่างกายไว้เพื่อให้ร่างกายสามารถดึงพลังงานมาใช้ได้ในเวลาที่ต้องการจึงลดยากเป็นพิเศษครับ
ส่วนวิธีลดไขมันก็ง่ายๆแค่ ออกกำลังกาย + คุมอาหาร และทำซ้ำต่อเนื่องไปเรื่อยๆครับไม่ช้าก็เร็วต้องเห็นผลแน่นอนครับ
No Responses